การสร้างทัศนียภาพให้กับสวนดอกไม้ในตอนกลางคืนจำเป็นต้องมีการประดับตกแต่งด้วยแสงไฟ โดยทั่วไปจะใช้โคมไฟโลหะแบบกันน้ำสีดำสอดเข้าไปด้านใน และโคมไฟที่ใช้เป็นระยะเวลานานจะมีคราบดินโคลน คราบน้ำเกาะทำให้ไม่สวยงาม อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ยาก
โคมไฟเก่าที่พ่นโดยสีพ่นเลียนแบบหินแกรนิตADD STONE มาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษคือสิ่งสกปรกไม่เกาะติดและทำความสะอาดง่าย สามารถปกป้องโคมไฟที่ใช้เป็นเวลานานให้ใหม่อยู่เสมอ นอกจากนี้สีเลียนแบบหินแกรนิตรุ่น AN ยังมีลวดลายที่เหมือนหินแกรนิตจริง ทำให้เหมือนมีหินแกรนิตมาห่อหุ้มโคมไฟอยู่ โคมไฟโลหะจึงเปลี่ยนเป็นโคมไฟที่มีลวดลายแบบหินแกรนิต และยังช่วยเพิ่มให้ทัศนียภาพของสวนดอกไม้ให้สวยงามยิ่งขึ้น
โคมไฟที่เก่าตามกาลเวลา เต็มไปด้วยคราบน้ำ คราบสกปรก
ขั้นตอนก่อนพ่นสีคือทำความสะอาดผิวภายนอก
นำโคมไฟมาถอดออกเป็นชิ้นๆแล้วนำไปขจัดคราบสกปรก คราบน้ำ สิ่งที่เกาะติดต่างๆ แล้วใช้แปรงขัดผิวด้านนอกให้สะอาด
โคมไฟที่กำลังพ่นสีรองพื้นADD STONE ต้องคำนึงถึงความแตกต่างของวัสดุ โดยใช้รองพื้นที่เหมาะสมกับวัสดุนั้นๆ
โคมไฟที่ใช้ในสวนดอกไม้มักจะใช้วัสดุที่เป็นโลหะ ดังนั้นเวลาพ่นรองพื้นลงบนพื้นผิวโลหะควรจะเลือกสีขาว
ขณะที่พ่นสีทุกๆ ชั้นเสร็จแล้ว จำเป็นต้องรอให้สีแห้งสนิท หลังจากนั้นจึงพ่นสีหลักสีเลียนแบบหินแกรนิตรุ่นAN 2 รอบ
ขณะที่รอให้สีหลักสีเลียนแบบหินแกรนิต ADD STONE รอบแรกแห้ง เราสามารถสังเกตุเห็นสีของรองพื้นและสีเพิ่มความยืดหยุ่นอยู่เล็กน้อย
โคมไฟที่พ่นสีหลักสีเลียนแบบหินแกรนิตแล้วสองชั้นและพ่นสีเคลือบชั้นสุดท้ายอีกหนึ่งชั้น ทำให้โคมไฟเก่าที่เดิมทีมีสีดำ มีคราบสิ่งสกปรกเกาะติดที่ผิวด้านนอก ได้กลายมาเป็นโคมไฟที่มีสีสันและลวดลายเป็นหินแกรนิต
โคมไฟที่เดิมทีเป็นสีดำให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสินค้าที่ผลิตโดยมนุษย์ แต่หลังจากที่ถูกพ่นทับโดยสีเลียนแบบหินแกรนิตADD STONE ทำให้โคมไฟทั้งต้นให้ความรู้สึกหนัก หนา และมั่นคง อีกทั้งลวดลายของหินแกรนิตยังทำให้โคมไฟเหมือนหินแกรนิตแกะสลักมากกว่าที่จะเป็นโคมไฟธรรมดาเสียอีก ยิ่งทำให้กลมกลืนไปกับวิวทิวทัศน์ของสวนดอกไม้มากยิ่งขึ้น